ปรับมุมคิด‘ลดคาร์บอน’ เปลี่ยนภาระเป็น‘การลงทุน’

14 พฤษภาคม 2565
ปรับมุมคิด‘ลดคาร์บอน’ เปลี่ยนภาระเป็น‘การลงทุน’

          ปัญหาการเปลี่ยนเปลงสภาพภูมิอากาศเป็นวาระโลก ที่ประเทศไทยโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศแผนที่ทางเดินว่า ไทยจะร่วมก้าวเดินสู่สังคมคาร์บอนต่ำไปกับโลก โดยตั้งเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 (พ.ศ.2593)  และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2065 (พ.ศ.2608)

          เป้าหมายดูเหมือนยังไกลและมีเวลาอีกมาก แต่ในภาคปฏิบัติต้องลงมือทันที เนื่องจากได้มีการกำหนดแผนปฎิบัติการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งรวมถึงคาร์บอน ลงเป็นลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ

          ที่เป็นรูปธรรมชัดเจนสุดคือ ข้อกำหนด CBAM -Carbon Border Adjustment Measure ของสหภาพยุโรป ที่จะเริ่มบังคับใช้ในปี 2566 นี้แล้ว โดยจะเรียกเก็บภาษีสินค้าที่จะส่งเข้าไปขายในสหภาพยุโรป หากกระบวนการผลิตปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศเกินเกณฑ์กำหนด เริ่มนำร่อง 5 อุตสาหกรรม คือ เหล็ก อะลูมิเนียม ปูนซิเมนต์ ไฟฟ้า การขนส่ง เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกับผู้ประกอบการภายใน ที่ถูกกำกับให้ต้องลงทุนเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนลง

          ทั้งนี้ มีสัญญาณว่าหลายประเทศอาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน จะใช้มาตรการลักษณะเดียวกันตามมาเเป็นลำดับ  และในอนาคตจะขยายรายการสินค้าเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ จนอาจครอบคลุมการผลิตทั้งหมด ที่ต้องลดการปล่อยคาร์บอน

          เวทีสัมมนา “Carbon War วิกฤต-โอกาสไทยบนเวทีโลก” ของหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ทุกภาคส่วนเห็นร่วมกันว่า วาระโลกสู่การลดละเลิกคาร์บอนนี้เป็นเงื่อนไขที่ทุกฝ่าย “ไม่ปรับไม่ได้” ใครไม่ปรับก็จะไม่สามารถอยู่ในสนามแข่งขันต่อไปได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยที่ภาคส่งออกเป็นเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นสัดส่วนกว่า 70% ของจีดีพี

          ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เตรียมรับเกณฑ์ใหม่ที่เกิดขึ้นตามบทบาทหน้าที่ กรมสรรพสามิตปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ เปลี่ยนจากฐานกำลังเครื่องยนต์สู่อัตราการปล่อยคาร์บอน ปรับภาษีน้ำมันให้ดีเซลเข้าใกล้เบนซินเนื่องจากสร้างมลพิษมากกว่า อุดหนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดทางเอกชนปลูกป่าชายเลนเพื่อนำไปเป็นคาร์บอนเครดิต องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก(องค์การมหาชน) พัฒนาเกณฑ์วัดค่าการปล่อยคาร์บอนในมาตรฐานสากล สร้างตลาดคาร์บอนเป็นกลไกช่วยการปรับตัวของภาคเอกชน เป็นต้น

อ่านต่อได้ที่: https://www.thansettakij.com/columnist/524789


แหล่งที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.